18 February 2012

อิหร่านและจุดยืนของประเทศไทย

หลังจาก เหตุระเบิดที่สุขุมวิท 71 คนร้ายที่ถูกจับได้ถือพาสปอร์ตอิหร่าน ซึ่งทางอิสราเอลได้ออกแถลงการณ์ทันทีว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังการวางระเบิดในประเทศไทย รวมทั้งในอินเดียและจอร์เจียซึ่งเกิดเหตุระเบิดก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน โดยมีการใช้ระเบิดลักษณะเดียวกันเพื่อลอบสังหารทูตของอิสราเอล แต่ทางอิหร่านได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำและบอกว่าอิสราเอลนั่นแหละเป็นผู้ทำเอง!

ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลและอเมริกามีมานานแล้ว การพัฒนาด้านพลังงานนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นชนวนสำคัญทำให้อิสราเอลและอเมริกาไม่พอใจอย่างมาก อิหร่านถูกแบนไม่ให้ส่งออกน้ำมันไปทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์อิหร่านถูกลอบสังหารไปหลายคน แต่อิหร่านยังเดินหน้าต่อและมีความก้าวหน้าอย่างมากในด้านนิวเคลียร์

ล่าสุดประธานาธิบดีอิหร่านได้ทำพิธีหย่อนแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ลงไปในแกนกลางเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของอิหร่าน เช่นเดียวกับเกาหลีเหนือที่มีความก้าวหน้าในด้านนิวเคลียร์เช่นกัน และก็เป็นไม้เบื้อไม้เมากับอเมริกามาตลอด น่าคิดว่าทั้งอเมริกาและอิสราเอลต่างก็มีการใช้พลังงานนิวเคลียร์และมีระเบิดนิวเคลียร์อยู่ในมือเป็นร้อยๆ ลูก แต่ประเทศอื่นที่ไม่ใช่พวกตนพอจะมีนิวเคลียร์ไว้ใช้บ้างกลับไม่ได้!

อิหร่านหรือเปอร์เชียเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มาตั้งแต่ในอดีต มีศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่ยาวนาน ปัจจุบันก็มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีทรัพยากรธรรมชาติทั้งน้ำมันและแก็สธรรมชาติมากติดอันดับต้นๆ ของโลก และมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับภูมิภาคเอเชียรวมทั้งประเทศไทยด้วย ตามประวัติศาสตร์ไทยเรารับวัฒนธรรมบางอย่างมาจากอิหร่านในด้านศาสนาอิสลามหรืออาหารอย่างเช่น แกงมัสมั่น ซึ่งเจ้าจอมพระองค์หนึ่งของรัชกาลที่ 2 ที่มีเชื้อสายอิหร่านเคยปรุงถวาย อันเป็นที่มาของกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ท่อนที่ว่า "มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแีรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา"

ผมเคยได้คุยกับคนอิหร่านคนหนึ่ง เขาบอกว่ารู้จักเมืองไทยและเคยมาเที่ยวทะเลที่ภูเก็ต ดูแล้วประเทศไทยก็เป็นที่รู้จักและชื่นชอบของคนอิหร่านพอสมควร ดังนั้นเราอย่าพึ่งไปอคติกับประเทศอิหร่านและคนอิหร่านเลยครับ เรามีความสัมพันธ์กันมายาวนานจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และสามารถร่วมมือกันได้อีกต่อไปในอนาคต ทั้งด้านพลังงาน การท่องเที่ยว และการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นก็น่าที่จะสอบสวนให้ได้ความจริงเสียก่อนว่าเป็นฝีมือของใครชาติไหนกันแน่ และแยกแยะว่าเป็นการกระทำของรัฐบาลประเทศนั้นๆ หรือเป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลเฉพาะกลุ่ม โลกใบนี้มีความขัดแย้งกันมากพอแล้ว เราควรมีจุดยืนที่เป็นกลางและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่ายครับ  

No comments:

Post a Comment